“365วัน สนุกกันได้ทั้งปี”โดยเฉพาะช่วงงูออกจากไข่
“อาหารที่เหมาะสมที่สุดคืออะไร? ”
ควรให้อาหารบ่อยแค่ไหนจึงจะเหมาะสม ?
กับอีกหลายคำถามที่อยากปุจฉา
“และเราพร้อมที่จะวิสัชชนา”
บอลไพธอนจะกินหนูเป็นอาหารหลักและน้อยตัวนักจะยอมรับอาหารที่ผิดแผกไปจากบรรพชน แม้ว่าบอล ไพธอนที่เลี้ยงไว้บางตัวจะโอนอ่อนผ่อนตามใจเจ้าของโดยการยอมรับน่องไก่ที่เจ้าของหยิบยื่นให้ก็ตามที ถึงกระนั้นอาหารการกินก็ยังจำเป็นต้องสลับด้วยหนูทั้งตัวบ้างตามความเหมาะสม ซึ่งหากผู้อ่านท่านใด ทำใจไม่ได้ที่จะให้หนูเป็นอาหาร(ไม่ว่าในรูปแบบเป็นหรือตาย) ผมแนะนำว่า บอล ไพธอน ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับคุณครับ แต่สำหรับท่านที่สามารถให้หนูเป็นอาหารงูได้โดยตลอด ผมก็ไม่แนะนำให้ใช้วิตามินเสริมอย่างใดอีก เพราะนอกจากจะเป็นการสิ้นเปลืองแล้ว วิตามินบางตัวอาจสะสมในร่างกายงูมากเกินไปจนเกิดโทษก็เป็นได้ เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นการบำรุงร่างกายงูเพื่อการพิเศษ เช่นในกรณีของการบำรุงแม่งูให้สมบูรณ์ก่อนเข้าช่วงวางไข่ หรือเพื่อการฟักฟื้นแม่งูหลังจากเพิ่งออกไข่ รวมไปถึงการกระตุ้นให้งูเริ่มกินอาหารเองหลังจากหยุดกินมาเป็นเวลานาน
ส่วนลำดับเหยื่อที่มีคุณค่าทางโภชนการเหมาะสมต่อความต้องการของงูมากที่สุดคือหนูแรท เพราะกระดูกโครงสร้างใหญ่ สัดส่วนไขมันค่อนข้างน้อย และได้ปริมาณเนื้อที่มาก(แต่งูส่วสนใหญ่อาจไม่ชินกลิ่นจึงมักปฎิเสท) รองลงมาคือกระต่าย ปัญหาหลักในการให้กระต่ายเป็นอาหารก็คือเราจะสามารถใช้ได้เฉพาะกับงูที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่เท่านั้น อันดับต่อไปคือ หนูASF และสุดท้ายคือ หนูไมซ์ ซึ่งแม้ว่าจะตกมาอยู่ที่อันดับเกือบสุดท้าย แต่กลับเป็นอาหารการกินที่ได้รับความนิยมสูงสุด ส่วนที่แย่ที่สุดคือแฮมสเตอร์ เพราะมีปริมาณไขมันในสัดส่วนที่มากเกิน ยิ่งไปกว่านั้น ในกรณีที่เป็นแฮมสเตอร์พันธุ์ขนยาว ด้วยความปุกปุยของขนนี้เองที่นอกจากจะย่อยยากแล้วยังมีโอกาสที่จะอุดตันทางเดินอาหารได้ง่าย การใช้แฮมสเตอร์เป็นอาหารจึงเหมาะเฉพาะแค่ช่วงสั้นๆที่ต้องการขุนแม่งูก่อนเข้าช่วงผสมพันธุ์เท่านั้นเอง
สำหรับความถี่ของการให้อาหารนั้นเป็นเรื่องของความละเอียดลออ และความช่างสังเกตของเจ้าของงู เพราะงูแต่ละตัวมักจะมีระดับความเจริญอาหารที่ไม่เท่ากัน แถมยังมีช่วงเวลาของการกินอาหารที่แตกต่างกันไปในรอบปีด้วย เช่นงูบางตัวอาจกินอาหารเพียงสัปดาห์ละครั้ง ในขณะที่งูบางตัวกลับเลื้อยหาอาหารและกินอาหารได้ถึงสัปดาห์ละ2-3ครั้ง และงูจอมตะกละตัวเดียวกันนี้อาจไม่กินอะไรเลยตลอดช่วงฤดูหนาวก็เป็นได้ แถมท้ายด้วยบอลไพธอนนี่แหละที่ขึ้นชื่อลือชาเป็นหนักหนาว่ามักจะมีช่วงเวลาหยุดกินอาหารโดยไม่ทราบสาเหตุให้เจ้าของได้อกสั่นขวัญแขวนกันอีกด้วย
โดยรวมแล้วบอลไพธอนจะกินอาหารได้น้อยลง ไปจนถึงไม่กินเลยหากอุณหภูมิลดต่ำลง รวมไปถึงในช่วงฤดูผสมพันธุ์งูบางตัวอาจปฏิเสทอาหารเป็นเวลานับเดือน ว่ากันว่าสำหรับบอลไพธอนช่วงโตเต็มวัยอาจมีช่วงการกินอาหารเพียง200-250วันต่อปี เพราะส่วนมากจะหยุดกินอาหารในช่วงฤดูผสมพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพศเมียจะหยุดกินอาหารโดยสิ้นเชิงในช่วงตั้งท้องแก่และกกไข่ ในกรณีนี้ผมถือว่านอกจากจะเป็นการให้อาหารภาคปรกติเพื่อการดำรงชีพของสัตว์โลกแล้ว ยังถือเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างผู้เลี้ยงกับผู้ถูกเลี้ยงขึ้นไปได้อีกระดับหนึ่ง เพราะเจ้าของจะต้องใส่ใจ สังเกตทั้งพฤติกรรมและพัฒนาการที่แตกต่างกันของงูแต่ละตัว
นอกจากอากาศเย็นจะทำให้งูไม่เจริญอาหารแล้ว ในกรณีที่อากาศร้อนจัดๆ เราก็ไม่อาจชะล่าใจได้ว่าระบบย่อยอาหารของบอลไพธอนจะไร้ที่ติ เพราะด้วยเหตุที่สิ่งใดก้าวล้ำเขตแห่งทางสายกลางมากเกินไปย่อมลงท้ายด้วยความไม่เหมาะสมแน่แท้ ว่ากันว่า หากอากาศร้อนเกินไป เราไม่ควรจะให้เหยื่อที่มีขนาดใหญ่เกินไป แต่เราควรจะให้เหยื่อชิ้นเล็กแต่เพิ่มเป็นหลายชิ้นจะดีกว่า ทั้งนี้เป็นเพราะ ด้วยอากาศที่ร้อนจัดเกินไป จะส่งผลให้อวัยวะภายในของหนูตัวใหญ่ที่อยู่ภายในทางเดินอาหารของงูเกิดการเน่าก่อนที่น้ำย่อยจะแทรกซึมเข้าถึงเนื้อใน หากเกิดกรณีนี้ขึ้นมา งูจะสำรอกอาหารเพื่อเป็นการลงโทษเจ้าของงูที่ไม่ละเอียดลออ สร้างภาพและกลิ่นแห่งความน่าสะอิดสะเอียนแก่ผู้เลี้ยงและบุคคลรอบข้างเป็นอย่างยิ่ง อาจจะถึงขั้นบังคับบัญชาให้เลิกเลี้ยงเลยก็เป็นได้(เราเตือนคุณแล้วจริงๆนะ)
โดยมากแล้ว บอลไพธอนในวัยเด็ก(อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง1ขวบปี) จะมีระดับความเจริญอาหารมากกว่าบอลไพธอนที่อายุมากขึ้น และในทางตรงกันข้ามความทรุดโทรมที่เกิดจากการอดอาหารก็เกิดขึ้นได้เร็วกว่างูที่มีอายุมากได้เฉกเช่นเดียวกัน ดังนั้นสำหรับลูกงูที่อายุต่ำกว่า1ขวบปี จึงไม่มีควรมีช่วงการหยุดกินอาหารเลย สำหรับการเลี้ยงบอลไพธอนในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น(เช่นทางภาคเหนือ) การเพิ่มความร้อนให้กับสถานที่เลี้ยงในยามราตรีอันหนาวเหน็บมาเยือนถือเป็นสิ่งที่พึงกระทำ หากไม่ต้องการให้ลูกงูหยุดกินหรือไม่เจริญอาหาร โดยปรกติแล้วสำหรับลูกงูผู้เลี้ยงควรให้เหยื่อชิ้นเล็ก ด้วยความถี่2ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะตามธรรมชาติแล้วระบบย่อยอาหารของงูไม่ได้วิวัฒนาการขึ้นมาเพื่อทำงานอย่างต่อเนื่อง จึงควรมีช่วงพักให้ท้องว่าง เปิดโอกาสให้งูได้ออกมาเลื้อยหาอาหารด้วยความหิวบ้าง ล้วนถือเป็นการออกกำลังกายที่ดีสำหรับลูกงูในวัยกำลังเจริญเติบโต สำหรับงูที่ได้รับอาหารมากจนเกินไปตั้งแต่วัยเด็กกระทั่งเติบใหญ่จะมีไขมันสะสมในร่างกายมากเกินไป และอาจส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ได้
ส่วนในเรื่องของขนาดเหยื่อที่เหมาะสมนั้น สำหรับลูกงูที่ยังไม่เจนจัดในการรัดฉก ผมแนะนำให้ผู้เลี้ยงเริ่มต้นจากหนูคลานเสียก่อน(หนูคลานหมายถึงลูกหนูอายุไม่เกิน2สัปดาห์) เพราะหนูขนาดดังกล่าวไม่สามารถทำอันตรายงูได้เลย (นอกจากสร้างความเครียดและความรำคาญ) แล้วเมื่อลูกงูเริ่มเติบใหญ่ไปพร้อมๆกับประสบการณ์ในการล่าที่เต็มเปี่ยมจึงค่อยเพิ่มขนาดหนูที่มีขนาดใหญ่ขึ้นให้เหมาะสมกับขนาดของงู ทั้งนี้สำหรับผู้เลี้ยงที่ต้องการฝึกให้งูชินกับหนูตายก็ควรฝึกตั้งแต่เป็นลูกงูจะถือเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่สุด
อีกวิธีหนึ่งในการประมาณขนาดของเหยื่อที่เหมาะสมก็คือเหยื่อที่ให้ไม่ควรมีขนาดใหญ่กว่า2เท่าของหัวงู เนื่องจากสรีระของบอลไพธอนเป็นงูที่มีหัวเล็กแต่ลำตัวอ้วนกลาง จึงมีผู้เลี้ยงบางท่านประเมินขนาดของเหยื่อที่จะให้กับงูได้ผิดพลาด ทำให้งูไม่สามารถกินเหยื่อได้ ทั้งนี้เพราะเหยื่อมีขนาดใหญ่เกินกว่างูจะรับได้
สำหรับงูที่อายุมากกว่า1ปี ปริมาณอาหารที่งูได้รับแต่ละครั้งควรจะมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขยับขนาดเหยื่อชิ้นใหญ่ขึ้นหรือเพิ่มจำนวนเหยื่อให้มากขึ้น (ในกรณีที่งูยังไม่เคยชินกับเหยื่อชิ้นใหญ่) แต่ไม่ว่ากรณีใดก็ตามผู้เลี้ยงควรลดความถี่ให้การให้อาหารลง โดยอาจจะเหลือเพียงสัปดาห์ละครั้งเดียว
ส่วนมากพฤติกรรมการกินเหยื่อของบอลไพธอนจะมีการฉกกัดและรัดเหยื่อก่อนกินทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นเหยื่อเป็นหรือตาย และมักจะเริ่มกลืนเหยื่อจากทางหัว แต่หากว่าเหยื่อชิ้นเล็ก งูบอลไพธอนอาจแสดงอาการสบประมาทขนาดเหยื่อโดยการกินจากหางหรือกินจากกลางตัวก็ได้ โดยมากในจังหวะสิ้นสุดการกลืนเหยื่อทั้งตัวงูมักจะยกคอขึ้นสูง เพื่อใช้แรงโน้มถ่วงในการช่วยส่งเหยื่อผ่านลำคอลงสู่ทางเดินอาหารได้ง่ายขึ้น และช่วงนี้มักเป็นจังหวะสำคัญของการ “ตามน้ำ” เพื่อฝึกให้งูยอมรับเหยื่อชนิดใหม่ๆที่ไม่เคยกินมาก่อนด้วยการยื่นอาหารชิ้นต่อไปเข้าในปากงูขณะที่อ้าปากกว้างๆได้เลย
นอกจากขนาดของเหยื่อและความถี่ในการให้อาหารแล้ว สิ่งหนึ่งที่เจ้าของงูมองข้ามไม่ได้โดยเด็ดขาดก็คือ เรื่องความสะอาด และสุขอนามัยของหนูที่จะให้เป็นเหยื่อ เพราะหากว่าคุณจะใส่ใจในความสะอาดและการจัดการสถานที่เลี้ยงให้ดีอย่างไรก็ตาม แต่สิ่งที่ทำมาทั้งหมดอาจสูญเปล่า หากเพียงแค่หนูเหยื่อที่นำเข้ามาขาดไปซึ่งสุขอนามัย (แถมได้อภิสิทธิ์มากในระดับเข้าไปถึงในตัวงูอีกด้วย) ดังนั้นไม่ว่าจะใช้หนูเป็นหรือหนูแช่แข็ง เจ้าของงูพึงตรวจสอบภาพของหนูให้ดีว่าสะอาดและปราศจากสารเคมีอย่างแน่นอนหรือไม่ ในกรณีที่เจ้าของงูซื้อหนูตามร้านขายสัตว์เลี้ยงประเภทหนู ควรถามเจ้าของร้านว่าได้ใช้ยาฆ่าเห็บ/หมัดกับหนูหรือเปล่า และถ้าได้ใช้ต้องสอบถามด้วยว่าใช้ไปครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?
สำหรับท่านที่ทางบ้านรู้สึกอดรนทนไม่ได้กับกลิ่นไม่พึงประสงค์ของหนูเป็น รวมไปถึงมีสมาชิกภายในบ้านที่ค่อนข้างห่วงใยกับสุขอนามัย ก็ใช่ว่าคุณจะหมดโอกาสจะเลี้ยงบอลไพธอนไปเสียเลยทีเดียว เพียงแต่ผมอยากแนะนำว่า ก่อนที่คนรักงูจะเผลอไผลตกลงปลงใจไปกับบอลไพธอนตัวไหน ต้องอย่าลืมถามคนขายด้วยว่า บอลไพธอนที่เรากำลังต้องมนต์สะกดอยู่นั้นยอมรับของตายได้หรือเปล่า เพราะในโลกแห่งทุนนิยมนั้น การหาซื้อหนูแช่แข็งนั้นง่ายพอๆกับการหาซื้อหนูเป็น แถมยังมีบางรุ่นที่บรรจุอยู่ในซองฟอยด์ปิดสนิทมิดชิดที่ทำให้อาหารของงูอยู่ร่วมตู้เย็นเดียวกับอาหารของคนได้อย่างไม่น่ารังเกียจ และที่ดูจะเป็นใจมากยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ส่วนใหญ่แล้วบอลไพธอนCB;captive bred (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกรดUSCB)ที่นำเข้ามาขายในตลาดบ้านเรามักไม่ค่อยแสดงอาการปฏิเสทหนูตาย ซึ่งแตกต่างจากงูนำเข้าในสมัยก่อนซึ่งส่วนมากจะเป็นCH;captive hatched ซึ่งงูในเกรดนี้จะมีบางตัวเท่านั้นที่จะยอมรับหนูตาย
นอกจากนี้ยังมีประเด็นวิพากษ์กันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการใช้หนูเป็นและหนูแช่แข็ง ว่าแท้จริงแล้วบอลไพธอนต้องการ “การสังหาร”เพื่อดำรงชีพหรือไม่? บางเกจิยกเหตุผลว่า การใช้หนูเป็นนั้น ทำให้บอล ไพธอนต้องมีการรัดเพื่อฆ่าเหยื่อด้วยตัวเอง ซึ่งนอกจากงูจะได้ออกกำลังในการบีบรัดกล้ามเนื้อแล้ว ยังเป็นการช่วยกระตุ้นสัญชาติญาณนักล่าได้เป็นอย่างดี ซึ่งตรงกันข้ามกับอีกฝ่ายหนึ่งที่ยกประเด็นว่าหากเราพิจารณาพฤติกรรมขณะกินเหยื่ออย่างละเอียด จะเห็นได้ว่าแม้งูจะยอมรับหนูแช่แข็งก็ตาม แต่งูทุกตัวก็ยังมีการฉกกัดและรัดเหยื่อก่อนแล้วค่อยกลืนกินเสียทุกครั้ง ซึ่งหมายความว่าไม่ว่าหนูเป็นหรือหนูแช่แข็ง ก็สามารถเติมเต็มสัญชาตญาณนักล่าของบอลไพธอนได้อย่างครบถ้วน
ซึ่งหนึ่งที่หนูแช่แข็งและอาหารแช่แข็งทุกชนิดได้เฉือนชนะอาหารเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ นักเลี้ยงที่เก็บเฉพาะบอลไพธอนตัวสวย ก็คือเรื่องโอกาสที่งูจะบาดเจ็บขณะฉกรัดเหยื่อ รวมไปถึงการทิ้งหนูเป็นๆไว้กับงูที่ไม่หิวถือว่าเป็นอันตรายต่อตัวงูอย่างยิ่งยวด นอกจากนี้งูที่ยอมรับเหยื่อตายจะทำให้เจ้าของงูสะดวกในการถ่ายพยาธิและโปรโตซัวประจำปีอีกด้วย โดยการฉีดยาเข้าไว้ในตัวหนู ในกรณีนี้ไม่เพียงแต่ตัวยาเท่านั้น สำหรับวิตามินบำรุงชนิดอื่นๆที่จำเป็น เราก็สามารถใช้วิธีนี้ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งทำให้เราหลีกเลี่ยงการสร้างความเครียดกับงูได้ดีในระดับหนึ่ง หากจะเทียบกับการให้ยาต่างๆที่จำเป็นแก่งูด้วยการสอดยางเข้าทางปาก
นอกจากผู้เลี้ยงต้องระวังบอลไพธอนจากการกัดแทะของหนูเป็นแล้ว ตัวผู้เลี้ยงเองก็ต้องระวังตัวเองจากการกัดของหนูเป็นด้วย รวมไปถึงการป้องตนเองจากงูในเวลาเดียวกัน เพราะแม้ว่าบอล ไพธอนจะไม่ดุ และไม่ฉกกัดคน แต่ก็ในขณะที่ฉกกัดเหยื่อก็มีโอกาสที่จะสำคัญผิดว่ามือเจ้าของเป็นอาหารได้เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเจ้าของงูที่เพิ่งสัมผัสหนูมา ซึ่งมักจะมีกลิ่นหนูติดมือ แถมพกด้วยอุณหภูมิที่ใกล้เคียงกัน(นอกจากกลิ่นแล้วบอลไพธอนจะพิจารณาคลื่นความร้อนเป็นตัวช่วยประกอบในการโจมตีเหยื่อด้วย) ผมแนะนำว่าควรล้างมือให้สะอาดก่อนที่จะสัมผัสงูนะครับ ทั้งนี้เพื่อสุขอนามัยและความปลอดภัยของตัวคุณเอง
ไม่เพียงเจ้าของงูจะต้องระมัดระวังตัวจากการกัดของหนูเหยื่อแล้ว ตัวเจ้าของงูก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของงูต่อหนูเหยื่ออีกด้วย โดยตรวจสอบว่า (ในกรณีของการใช้เหยื่อเป็น) ตัวเหยื่อถูกงูกินหรือยัง การปล่อยหนูทิ้งไว้กับงูเกินกว่า15-20นาที งูจะมีความเสี่ยงในการเปลี่ยนสถานะจากผู้ล่ากลายเป็นผู้ถูกล่าไปได้ และมีกรณีอย่างนี้เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยๆ
“What is the most suitable food? ”
How often should feeding be appropriate?
with many more questions that I want to ask
“And we are ready to enlighten.”
Ball pythons primarily eat rats and very few of them accept a diet that differs from their ancestors, although some domesticated Ball pythons are more indulgent by accepting the chicken thighs offered by their owners. Even so, the diet still needs to be alternated with some whole mice as appropriate. If any reader can’t feed them rats (either alive or dead), I suggest Ball Python is absolutely unsuitable for you. But for those who can always feed the rats to snakes I do not recommend taking any other vitamin supplements. It’s a waste some of vitamins and may be accumulated in the snake’s body too much and it may be harmful. Unless it is to nourish the snake’s body for special purposes. For example, in the case of nourishing the mother snake completely before the spawning period, or to hatch the mother snake after laying eggs. Including encouraging snakes to start eating on their own after a long period of inactivity.
The most nutritious prey sequence suitable for the snake’s needs are the rat because of the large bone structure relatively small percentage of fat and get a large amount of space (but most snakes may not be used to the smell, therefore often refuse), followed by rabbits. The main problem with feeding rabbits is that they can only be used with medium to large snakes. The next rank are the ASF rats and the last are the MICE rats, although they fell to the bottom of the rankings. But it is the food that is the most popular. The worst part is the hamster, because the amount of fat in excess. Moreover, In the case of long-haired hamsters With the fluffiness of this hair, in addition to being difficult to digest, it is also prone to clogging the digestive tract easily. The use of hamsters as food is only suitable for the short period of time that the mother snake needs to be fattened before mating.
As for the frequency of feeding, it’s a matter of meticulousness and the watchfulness of the owner of the snake. Because each snake tends to have different levels of appetite. Plus, there are different times of the year when eating food. For example, some snakes may only eat once a week. While some snakes slither for food and eat up to 2-3 times a week. And the same voracious snake might not eat anything during the winter. In addition, Ball Python is so famous that it often stops eating for unknown reasons, causing its owners to panic.
Overall, ball pythons consume less food to not eating at all if the temperature drops. Including during the breeding season, some snakes may refuse food for months. It is said that an adult ball python may have a feeding period of only 200-250 days a year. Because most of them will stop eating during the breeding season. Females, in particular, completely stop eating during their gestation and incubation periods. In this case, I consider that in addition to providing normal food for the livelihood of animals. It is also regarded as elevating the relationship between the party and the party being raised to another level. because the owner must pay attention Observe the different behaviors and developments of each snake.
In addition to the cold air, the snake does not have an appetite. In the case of very hot weather , We cannot be complacent that Ballpython’s digestive system is flawless. For the reason that anything that goes too far in the boundaries of the Middle Way will surely end up being inappropriate. It is said that if the weather is too hot, We shouldn’t let the prey be too large. But it’s better to give small baits but add more pieces. This is because with too hot weather Will result in the internal organs of large rats inside the snake’s gastrointestinal tract to rot before the gastric juice penetrates to the inside. If this happens Snakes may regurgitate their food as a punishment for their careless owner. This creates a very disgusting image and smell to the pet and the people around them It may even be to the point of being forced to stop raising them altogether (we really warned you).
In general, young Ball Pythons (from birth to one year old) have a higher level of appetite than older Ball Pythons. And on the other hand, the deterioration caused by starvation is much faster than that of older snakes. Therefore, for young snakes under 1 year old Therefore, there should be no interruptions in eating at all. For raising ball pythons in colder regions (such as the North), it is advisable to heat up the sanctuary during the cold nights. If you don’t want the baby snake to stop eating or have no appetite. Normally, for young snakes, the pet should give small pieces of bait. with a frequency of 2 times a week Because naturally, the snake’s digestive system has not evolved to work continuously. Therefore, there should be a break for an empty stomach. Give the snake a chance to come out and slither for food with some hunger. All considered good exercise for young snakes in their growing age. For snakes that have been fed too much from childhood until growing up, there will be too much fat in the body. and may affect the reproductive system.
In terms of the appropriate bait size. For young snakes that are not experienced in snatching I recommend that people start with crawling rats first (crawling rats mean biceps up to 2 weeks old) because rats of that size can’t harm snakes at all. (Besides causing stress and annoyance) and when the baby snakes grow up with full hunting experience, they gradually increase the size of the rats to suit the size of the snake. However, for those who want to train snakes to get used to dead rats, they should train since they are young , it is the most appropriate time.
Another way to estimate the appropriate prey size is that the prey given should not be larger than twice the size of the snake’s head. Due to the body of the Ball Python is a snake with a small head but a fat body in the middle. Therefore, some keepers misjudged the size of the prey to be given to the snakes. Makes the snake unable to eat the prey. This is because the prey is too large for the snake to take.
For snakes older than 1 year, The amount of food that the snake gets each time should be more. Either by increasing the size of the prey or increasing the number of prey. (In case the snake is not used to large prey), but in any case, the keeper should reduce the feeding frequency. which may be left only once a week.
Most of Ball Python’s prey eating habits are snatching, biting and constricting prey before eating every time, whether the victim is alive or dead. and often starts swallowing prey from the head But if the victim is small Ball pythons may insult their prey by either eating from the tail or from the middle of the body. Often, at the end of swallowing the prey, the snake tends to raise its neck high to use gravity to help deliver prey through their throat into the gastrointestinal tract more easily And this is often the key moment of “following the water” to train snakes to accept new prey they haven’t eaten before by pushing the next piece of food into the snake’s mouth while opening its mouth wide.
In addition to bait size and feeding frequency, One thing that snake owners cannot absolutely overlook is cleanliness and the hygiene of rats to be used as prey. If you pay attention to the cleanliness and management of the party place, however. But all that has been done may be wasted. If only the imported rat bait lacks hygiene (Plus get a lot of privileges at the level of getting into the snake as well), so whether using live rats or frozen rats The owner of the snake must check the image of the rat to ensure that it is clean and absolutely free of chemicals or not. In the event that the owner of the snake buys a rat from a pet store. You should ask the shop owner if he has used tick/flea repellant on the rats. And if you have used it, you have to ask when it was last used?
For those of you who at home feel impatient with the unpleasant smell of rats. Including having members in the house who are quite concerned about hygiene. Well, it’s not like you’re out of opportunities to own one. I just want to suggest that Before the snake lover accidentally decides on which ball python? Do not forget to ask the seller as well. Can the ball python under the spell accept death? because in the world of capitalism Buying frozen mice is as easy as buying live mice. There are also some models that are packed in a sealed foil pouch that allows the snake’s food to coexist in the same fridge as human food. And what seems to be even more heartfelt is that Most Ball Python CB; captive bred (especially USCB grade) imported to the home market rarely shows signs of death. Unlike the old imported snakes, which were mostly CH;captive hatched, only some snakes of this grade would accept dead rats.
There is also widespread controversy regarding the use of live and frozen mice. that Ball Python actually wants “Killing” for a living or not? Some experts reasoned that By using rats, Ball Python has to constrict itself to kill its prey. which in addition to the snake will exercise in constricting the muscles It also stimulates the instinct of a hunter as well. This is in contrast to the other side that raised the point that if we carefully consider the behavior while preying. It can be seen that even the snake accepted the frozen rat. But all snakes still have to snatch and bite the prey first and then swallow it every time. This means whether the rat is live or the rat is frozen. able to fully fulfill the Ball Python’s hunting instinct
One of which frozen rats and frozen foods of all kinds have slashed food is especially victorious for. An aquarist who collects only beautiful ball pythons. It is about the chance that the snake will be injured while snatching the prey. Including leaving a live rat with a snake that is not hungry is considered extremely dangerous to the snake. In addition, snakes accepting dead prey will make snake owners convenient for annual deworming of parasites and protozoa. by injecting drugs into the mice In this case, it’s not just the drug itself. for other essential vitamins We can use this method as well. This allows us to avoid stressing snakes to a certain extent. If compared to giving the snake the various drugs necessary by inserting a rubber tube into the mouth.
In addition, the owner must be careful with ball pythons from rodent bites. The pet owner also has to be careful from rat bites. including protecting yourself from snakes at the same time Because even though Ball Python is not aggressive and does not bite people. But while snatching prey, there is a chance to mistakenly think that the owner’s hand is food as well. Especially if the owner of the snake has just touched the rat. which often smells of rats on hands (Aside from the smell, the ball python considers heat waves as an aid in attacking its prey.) I recommend washing your hands thoroughly before touching the snake. This is for your own health and safety.
Not only the owner of the snake must be careful from the bite of the prey rat. The owner of the snake must also be responsible for the safety of the snake to its prey. by checking that (In the case of live bait) Has the victim been eaten by the snake? Leaving rats with snakes for more than 15-20 minutes Snakes are at risk of transitioning from predator to prey. And there are cases like this happen often.
Cr.Ajan Kao